สมาธิเบื้องต้น
สมาธิ คือธรรมชาติ แห่งสรรพสิ่ง ในที่นี้มีความหมายว่า อันสมาธินั้น ย่อมมีอยู่ในสรรพสิ่ง อยู่แล้ว โดยเฉพาะมนุษย์ ซึ่งเราสามารถตรวจสอบหรือวัดความมีสมาธิได้ โดยที่เราไม่ต้องฝึกสมาธิในทางศาสนาเลยก็ได้ ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เราทั้งหลายได้ถูกขัดเกลามาตั้งแต่ครรภ์มารดา อันหมายถึง สมาธิ เกิดมาจากกรรมพันธุ์ เกิดจากสภาพแวดล้อม และเกิดจากการได้รับการขัดเกลา จนทำให้เกิดสมาธิ ขึ้นมาเองโดยธรรมชาติ เช่น การทำงานสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การอ่านหนังสือ การเล่น การทำอาหาร หรืออื่นๆ ในขณะที่จิตใจเราจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น เป็นการทำสมาธิโดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งหากจะกล่าวไปแล้ว การทำสมาธิในทางศาสนา ก็มาจากประสบการณ์อันได้รู้ได้เห็น ผู้คนหลายๆอาชีพทำงานมีจิตใจจดจ่ออยู่กับงานนั้น สมาธิ ก็เกิด ปัญญาก็ย่อมเกิดตามมา เมื่อปัญญาเกิด ความรู้ก็เกิดตามมาอีก เรียกว่าเป็นลูกโซ่
การทำสมาธิในทางศาสนา ก็ใช้หลักการเดียวกับ สมาธิอันเกิดจากการดิ้นรนแสวงหาเงินทองหรือความสนุกสนาน หรือเพื่อปากเพื่อท้อง ทั้งหลายเหล่านั้นมาเป็นบรรทัดฐาน หรือเป็นแม่แบบ โดยที่การทำสมาธิ ในทางศาสนา ก็ย่อมหาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวให้จิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น ซึ่งผู้ใดจะใช้สิ่งใดเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้เกิดสมาธิ ก็แล้วแต่ความชอบ หรือแล้ว ความนิยม ค่านิยม หรือได้รับการสั่งสอนต่อต่อกันมา สำหรับในทางศาสนาแล้ว วิธีการปฏิบัติสมาธิ ก็ย่อมนิยมใช้ ลมหายใจเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเพื่อให้เกิดสมาธิ
การทำสมาธิ ทางศาสนานี้นั้น ก็เพื่อเป็นการพักผ่อนสมองคลายเครียด หลังจากการทำงานมาตลอดทั้งวัน ในที่นี้หมายความว่า การทำสมาธิ ที่ถูกต้อง ก็คือ พักผ่อนสมอง บังคับ ควบคุมไม่คิดสิ่งใด ให้นิ่งเงียบ ไม่เห็นสิ่งใด ไม่คิดสิ่งใด ในทางศาสนาเรียกว่า ไม่ฟุ้งซ่าน นี้เป็นหลักการเบื้องต้น พอสังเขป ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการ ปฏิบัติสมาธิ
โดยคุณ : ลุงใหญ่ -
[ 16 ต.ค. 2004 , 18:41:07 น. ]
|