การให้ความรู้เรื่องภิกษุณีสงฆ์ธัมมนันทา

      คณะอนุกรรมาธิการด้านสตรี ในคณะกรรมาธิการสตรี เยาวชน และผู้สูงอายุ วุฒิสภา ร่วมกับชมรมส่งเสริมสถานภาพภิกษุณีแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนในสี่ภูมิภาคมี กำหนดการดังนี้

  • วันที่ ๑๓ พค. ที่ จ.ขอนแก่น (ภาคตะวันออก)
  • วันที่ ๒๐ พค. ที่ จ.ชลบุรี (ภาคกลาง)
  • วันที่ ๕ มิย. ที่ จ.เชียงใหม่ (ภาคเหนือ)
  • วันที่ ๑๐ มิย. ที่ จ.นครศรีธรรมราช (ภาคใต้) 

      คณะอนุกรรมาธิการชุดนี้ใช้เวลา ๖ เดือน ในการศึกษาวิจัยเรื่องความเป็นไปได้ของภิกษุณีสงฆ์ในประเทศไทย ได้เชิญนักวิชาการ พระภิกษุ ภิกษุณีที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่สนับสนุนและคัดค้านมาให้ความเห็นแก่คณะอนุกรรมาธิการ นอกจากนี้คณะทำงานยังได้ตรวจสอบทั้งกฏหมาย พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ และพระไตรปิฎก พบว่า การบวชภิกษุณีไม่ขัดกับกฎหมาย ความข้อนี้ยืนยันโดยดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐสภา เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๔๕ คณะทำงานศึกษาในพระไตรปิฎกและพบว่าเป็นเรื่องที่ทำได้โดยไม่ขัดพระธรรมวินัยเช่นกัน
      ปัญหาอุปสัคอยู่ที่การนำพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราชตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๑ ในสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชกลับมาใช้ในสมัยปัจจุบัน ทั้งที่โดยรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่า คำสั่งใดที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญให้พิจารณาโดยถือเอารัฐธรรมนูญเป็นหลัก แต่คณะสงฆ์ยังถือตามพระบัญชานี้อยู่
      การสัมมนาเพื่อพบปะประชาชนในสี่ภูมิภาคจะเป็นวิธีการหนึ่งที่จะให้องค์ความรู้ที่ถูกต้อง และแลกเปลี่ยนฟังความเห็นของประชาชนในระดับกว้าง วิทยากรที่เดินทางไปกับคณะอนุกรรมาธิการที่จังหวัดขอนแก่นเมื่อ๑๓ พค.ที่ผ่านมา เป็นตัวแทนของพุทธบริษัท ๔ ครบองค์ ทางฝ่ายพระภิกษุ ได้แก่พระภิกษุโกศิล ฝ่ายพระภิกษุณี ได้แก่ภิกษุณีธัมมนันทา ฝ่ายอุบาสกได้แก่ นายสันติสุข สันติศาสนสุข อนุกรรมาธิการฯ ฝ่ายอุบาสิกาได้แก่ สว.ระเบียบรัตน์ พงศ์พานิช (สว.จ.ขอนแก่น) และ สว.สุนีย์ อินฉัตร (สว.จ.ศีรษะเกษ)
      ผู้เข้าสัมมนาจำนวนกว่า ๙๐๐ คน จาก ๑๗ จังหวัดในภาคตะวันออก มีพระเณรจากมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัยในจังหวัดขอนแก่นเข้าร่วมรับฟังการสัมมนา และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ๑๐๐ กว่ารูป มีการถ่ายทอดสดทั้งทางวิทยุและสถานีโทรทัศน์ช่อง ๑๑
      นับเป็นบรรยากาศของการแสวงหาองค์ความรู้ที่คึกคักและอบอุ่นดียิ่ง